ม. 1 : ​ค้นหาหนังสือธรรมะ หน้า 137 / 480

บทที่ 6 ศาสนาซิกข์ 6.1 ประวัติความเป็นมา ศาสนาซิกข์ หรือสิกข์ เกิดในประเทศอินเดีย เป็นศาสนาใหม่ เกิดเมื่อ พ.ศ. 2012 โดย คิดตามปีที่เกิดของคุรุนานักผู้เป็นปฐมศาสดาของศาสนานี้ คำว่าซิกข์ เป็นภาษาปัญจาปี

ศาสนาซิกข์เกิดขึ้นในประเทศอินเดียเมื่อปี พ.ศ. 2012 โดยมีคุรุนานักเป็นปฐมศาสดา มีเป้าหมายในการสร้างความสงบสุขจากการต่อสู้ของสองศาสนาใหญ่คือ ศาสนาฮินดูและศาสนาอิสลาม ศาสนานี้มีความมุ่งหมายในการประนีประน

คุรุโควินทสิงห์กล่าวว่า สุเหร่ามณเฑียร วิหารเป็นสถานที่บำเพ็ญธรรมของคนทั้งหลายเหมือนกัน ที่เห็นแตกต่างกันก็เพราะความแตกต่างแห่งกาละและเทศะเท่านั้น ในศาสนาซิกข์ได้มีบทสวด (ชัปติ) แสดงถึงการประนีประนอมน

คุรุโควินทสิงห์กล่าวถึงสุเหร่ามณเฑียร ว่ามีความเหมือนกันในการบำเพ็ญธรรมและประนีประนอมกับศาสนาฮินดู โดยอธิบายถึงบทบาทของคุรุในการเรียนรู้และการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างชาวฮินดูและมุสลิมผ่านกิจกรรมต่าง ๆ

Pond) ทั้งได้ดำริจะสร้างวิหารขึ้นกลางสระน้ำด้วย คุรุอรชุนเทพ (พ.ศ. 2106-2149) ศาสนาองค์ที่ 5 ได้สร้างวิหารขึ้นกลางสระน้ำตาม ความประสงค์ของคุรุรามทาส โดยตั้งชื่อวิหารนี้ว่า หริมณเฑียร ต่อมาพระราชารัญชิ

วิหารสุวรรณวิหารที่ตั้งอยู่กลางสระน้ำ เป็นผลงานของคุรุอรชุนเทพในปี พ.ศ. 2106 และได้รับการสนับสนุนจากพระราชารัญชิตซิงห์ในปี พ.ศ. 2323 ซึ่งมีลักษณะสวยงามเป็นเอกลักษณ์และเปิดรับผู้เข้ามาทุกคน ไม่มีการแบ่

บนฝั่งแม่น้ำราวี ประเทศปากีสถานเมื่อ วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2012 ตระกูลเป็นฮินดู วรรณะ พราหมณ์ บิดาชื่อกุล หรือเมห์ตากัลยาดาส มารดาชื่อตริปตะ มีฐานะยากจน มารดาเป็นผู้ เคร่งครัดในศาสนามากส่วนบิดาเป็นข้า

นานักเป็นเด็กชายที่เกิดในปากีสถานเมื่อปี 2012 ครอบครัวเป็นฮินดูและยากจน เขาได้รับการศึกษาจากครูมุสลิม มีความเฉลียวฉลาดตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่ออายุ 14 ปี เขาแต่งงานแต่สุดท้ายหนีห่างกับภรรยา เพื่อค้นหาค

6.2.3 ได้ประสบการณ์ทางจิต เมื่อนานักได้หนีลูกและภรรยาเข้าไปอยู่ในป่าเพื่อเข้าสมาธิหาความสงบทางจิต ไม่ ช้าไม่นานวันหนึ่งเมื่อได้อาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด จิตใจปลอดโปร่งดีแล้ว ได้นั่งสมาธิ หาความสงบ ขณะ

คุรุนานักได้ประสบการณ์ทางจิตเมื่อออกไปนั่งสมาธิในป่า และได้รับน้ำทิพย์จากพระเจ้า ซึ่งทำให้เขามีความมั่นใจในตัวเอง หลังจากนั้นเขากลับบ้านบริจาคทานช่วยเหลือคนยากจนและตั้งตัวเป็นครูเพื่อสอนคนและรักษาโรคใ

ศาสนาของคนทั้งหลาย พระเจ้าเป็นผู้ปราศจากภัย ปราศจากเวร ไม่ใช่เป็นผู้ทำลาย เป็นผู้สร้าง เราไม่มีพระเจ้าสำหรับชาวมุสลิม เรามีพระเจ้าองค์เดียวองค์หนึ่งผู้เป็นเจ้าโลกทั้งสิ้น พระองค์ ไม่ทรงโปรดวรรณะหรือสี

ข้อความนี้พูดถึงความเชื่อเกี่ยวกับพระเจ้าที่ไม่มีการแบ่งแยกตามเชื้อชาติหรือศาสนา และคำสอนของคุรุนานักที่พยายามสร้างความสามัคคีระหว่างศาสนาต่างๆ มุ่งให้นำพาไปสู่ความรักและความเท่าเทียม โดยคุรุนานักได้ส

เคยถูกทำร้าย และเคยได้รับโทษจากผู้มีอำนาจ แม้จะเผชิญกับอุปสรรคเหล่านี้สักปานใดก็ตาม คุรุนานักก็มิได้ย่อท้อเป็นผู้ประกอบด้วยขันติธรรมและเมตตาธรรมตลอดมานับเป็นเวลานานถึง 35 ปี สามารถทำให้ชาวมุสลิมและชาว

คุรุนานักต้องเผชิญกับความยากลำบากตลอดชีวิต 35 ปี แต่ไม่ย่อท้อในการส่งเสริมความรักและสามัคคีระหว่างชาวมุสลิมและฮินดู ชีวิตของคุรุนานักได้รับการบันทึกไว้ในคัมภีร์ครันถะ โดยเฉพาะในบั้นปลายชีวิตที่ท่านรู้

เพื่อให้มีผู้เป็นศาสดาสืบต่อเนื่องกันมา ไภลาห์หรือลาหินา ซึ่งได้รับมอบหมายจาก คุรุนานัก ปฐมศาสดาให้เป็นผู้รับช่วง ก็ได้เป็นศาสดาองค์ที่ 2 มีชื่อว่า คุรุอังคต ต่อจากคุรุอังคัต ก็ได้ท่านคุรุอมรทาสเป็นศา

บทความนี้กล่าวถึงรายละเอียดการดำรงตำแหน่งของศาสดาในศาสนาซิกข์ตั้งแต่ องค์ที่ 1 คือ คุรุนานัก จนถึง องค์ที่ 10 คือ คุรุโควินทสิงห์ โดยแสดงปีพระราชทานศาสดาและการใช้คัมภีร์ครันถะเป็นศาสดาแทนหลังจากปี พ.ศ

1. อาทิครันถะ สาดิบ แปลว่าพระคัมภีร์แรก คัมภีร์นี้คุรุอรชุน ศาสดาองค์ที่ 5 ได้จัด ทำขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2147 โดยรวบรวมคำสอนของคุรุองค์ก่อนๆ ตั้งแต่คุรุนานักจนถึงตัวท่านเอง รวมทั้งคำสอนของนักปราชญ์ในศาสนาฮิ

คัมภีร์ครันถะ สาดิบ และครันถะ สาหิบ เป็นคัมภีร์สำคัญของศาสนาซิกข์ที่รวบรวมคำสอนจากคุรุหลายองค์และนักปราชญ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะครันถะ สาดิบที่ใช้ภาษาหลายภาษาในการเขียน และมีการเก็บรักษาอย่างดีในสุวรรณวิหารท

เมื่อดื่มน้ำอมฤตแล้ว ชาวซิกข์ทุกคนจะต้องถือศีล 21 ข้อ เป็นศีลประจำชีวิตของ ศาสนิกชนทุกคน คือ ก. ข้อปฏิบัติ 1. ให้นับถือศาสดาทุกองค์เป็นบิดา และถือว่าตนเป็นบุตรของบิดา 2. ให้ถือว่าเมืองปาตลีบุตร (ปัตนะ

เมื่อดื่มน้ำอมฤต ชาวซิกข์จะต้องถือศีล 21 ข้อ ซึ่งรวมถึงการนับถือศาสดาเป็นบิดา การยกเลิกชั้นวรรณะ การบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และการฝึกฝนร่างกาย การห้ามยังรวมถึงการไม่วิวาทระหว่างกัน ไม่พูดปด และไม่คบคนที่

สิ่งต้องห้ามในศาสนา ความพอใจและความสันโดษจะช่วยควบคุมกิเลสตัวนี้ได้อย่างดี 4. ความหลง คือ ความไม่รู้จริงและเชื่อในสิ่งผิด ๆ เพราะไม่ใช้ปัญญาใคร่ครวญ จึง เกิดการตัดสินใจผิดพลาดทำให้เกิดทุกข์ตามมา กิเลส

เนื้อหาเกี่ยวกับสิ่งต้องห้ามในศาสนาซิกข์ ที่อธิบายถึงกิเลสต่างๆ ที่มนุษย์ต้องระวัง รวมถึงความหลงและอหังการที่ทำให้เกิดทุกข์ และการปฏิบัติตามคำสอนในศาสนาซิกข์เพื่อเข้าถึงภพที่สูงขึ้น ซึ่งมีการแบ่งการปฏ

สัจธรรมอันสูงสุดที่ไม่มีบ่อเกิด เพราะพระองค์ทรงเป็นบ่อเกิดของสิ่งทั้งหลาย ทรงเป็น จุดหมายสุดท้ายที่สิ่งทั้งหลายทั้งปวงต้องกลับมาสู่พระองค์ พระองค์ทรงเป็นอมตะ มีชีวิต นิรันดรกาล พระองค์ไม่มีรูปร่างที่ม

บทความนี้กล่าวถึงสัจธรรมอันสูงสุดในศาสนาซิกข์ ซึ่งพระเจ้าไม่มีบ่อเกิดและทรงเป็นอมตะ ผู้ที่จะรู้จักพระองค์ต้องผ่านการปฏิบัติตามทางแห่งความรอด โดยเฉพาะการสวดมนต์และการมีสติ พระเจ้าที่แท้จริงเป็นสิ่งที่ไ

6.7 พิธีกรรมและประเพณีที่สำคัญ พิธีกรรมและประเพณีที่สำคัญ ที่ชาวซิกข์ทุกคนควรที่จะได้ประพฤติปฏิบัติมีดังนี้ 6.7.1 พิธีปาหุล พิธีกรรมที่ชาวซิกข์ทุกคนต้องทำ คือ พิธี “ปาหุล” ได้แก่ พิธีล้างบาป เมื่อเสร็

บทความนี้กล่าวถึงพิธีกรรมและประเพณีที่สำคัญของชาวซิกข์ เริ่มจากพิธีปาหุล ซึ่งเป็นพิธีล้างบาปที่ทำให้ผู้เข้าร่วมได้รับชื่อ 'สิงห์' รวมถึงการรับเอา 'ก' ทั้ง 5 ประการ เช่น เกศ, กังฆา, กฉา, กรา และ กิรปาน

1. ยัป ซาฮิป 2. ยาปซาฮิป 3. สวาเย 4. โชไปอิ 5. อนันต์ซาฮิป หลังจากสวดมนต์จบแล้ว ท่านทั้ง 5 จะนำน้ำนั้นมาให้ผู้เข้าพิธีรับน้ำอมฤตดื่ม ซึ่งผู้ เข้าพิธีเหล่านี้นั่งด้านหลังของท่านทั้ง 5 และหันหน้าไปทางพร

หลังจากการสวดมนต์ ท่านทั้ง 5 จะมอบน้ำอมฤตให้กับผู้เข้าพิธี ซึ่งต้องพูดว่า 'คัลซาเป็นพระเจ้า' การเล่นดนตรีสวรรค์ (Kirtan) ช่วยให้ผู้สวดบรรลุถึงพระเจ้าเร็วขึ้น โดยใช้เครื่องดนตรีแบบหีบเพลง การสวดมนต์เป็

โพกไว้ภายนอกอีกชั้นหนึ่ง ส่วนสีนั้นไม่มีการจำกัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความนิยม แต่ชาวซิกข์ใน เมืองไทยส่วนมากนิยมสีขาว และสีฟ้าสดที่เรียกว่า ฟ้าอมน้ำเงิน ในหมู่ชาวซิกข์การโพกผ้ามิได้มีความหมายเพียงแค่ประเ

การโพกศีรษะในชาวซิกข์มีความสำคัญมาก ไม่เพียงแต่เป็นประเพณีการแต่งกาย แต่ยังแสดงถึงความรู้สึกของศาสนา การสืบทอดตำแหน่ง และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในชุมชน นอกจากนี้พิธีครัวทานยังเป็นการสร้างสังคมที่เ

ประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ สิงคโปร์ และฮ่องกง เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่ อยู่ในประเทศอินเดีย ศาสนาซิกข์ได้ช่วยหล่อหลอมจิตใจชาวซิกข์ไม่ว่าอยู่ในประเทศอินเดีย หรือต่างประเทศ ให้มีลักษณะอย่างเด

ศาสนาซิกข์ได้มีความสำคัญต่อชาวซิกข์ทั้งในอินเดียและต่างประเทศ โดยชาวซิกข์ได้รับการยกย่องในความขยันหมั่นเพียร และการมีส่วนร่วมที่สำคัญในด้านต่างๆ เช่น เกษตรกรรม การกีฬา และธุรกิจ ศูนย์กลางของศาสนาซิกข์

บทที่ 7 ศาสนาเต๋า 7.1 ประวัติความเป็นมา ศาสนาเต๋า เป็นศาสนาที่แปลก คือดั้งเดิมไม่ได้เป็นศาสนา และผู้ที่ถือกันว่าเป็นศาสดาก็ ไม่มีส่วนรู้เห็นเลยกล่าวคือเหลาจื้อได้รับยอย่องให้เป็นศาสดา แต่สมัยที่ท่านยั

ศาสนาเต๋าเริ่มต้นจากคำสอนของเหลาจื้อที่ไม่ได้ประกาศเป็นศาสนา จนกระทั่งหลังการเสียชีวิตของท่าน มีผู้เชื่อถือคำสอนได้รวมตัวกันและสร้างระบบศาสนาขึ้น โดยมีตระกูลของนักพรตและการสถาปนาศาสนาในราชวงศ์ฮั่น มีก

เตียเต๋าเล้ง และสังฆราชถัดๆ มาก็เป็นแบบไสยศาสตร์หรือรหัสนิยม (Mysticism) อย่างเช่น จางเต้าหลิง หรือจางหลิงผู้ได้รับสถาปนาเป็นสังฆราชองค์แรกของศาสนาเต๋าในราวปี พ.ศ. 577 ก็มีดาบศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่าด

บทความนี้สำรวจประวัติและพัฒนาการของศาสนาเต๋าในประเทศจีน ตั้งแต่การก่อตั้งโดยเล่าจื้อ จนถึงการเปลี่ยนแปลงในสมัยต่างๆ ของจักรพรรดิ สะท้อนให้เห็นความรุ่งเรืองและตกต่ำของศาสนาเต๋าขึ้นอยู่กับความเชื่อและกา

พ.ศ. 2204-2264 จักรพรรดิกังสี (Kang Hsi) ทรงสั่งลงโทษหมอเถื่อนพวกศาสนาเต๋า รวมถึงคนที่มารับรักษาด้วย ทั้งทรงห้ามชุมนุมและเดินขบวนของผู้นับถือศาสนาเต๋า ทรง พยายามบีบคั้นศาสนาเต๋าทุกนิกาย พ.ศ. 2443 เกิด

บทความนี้กล่าวถึงช่วงเวลาของจักรพรรดิกังสีที่ทรงใช้มาตรการกดดันศาสนาเต๋าในจีน และการเกิดขบถมวยที่มีรากฐานจากความเชื่อของศาสนาเต๋า นอกจากนี้ยังพูดถึงเล่าจื้อ ผู้ก่อตั้งศาสนาเต๋า ที่มีชีวิตประมาณ 604-52

แล้วเล่าจื้อมีระดับสติปัญญาเยี่ยงผู้ใหญ่ ความเป็นปราชญ์มีมาตั้งแต่เป็นเด็กทารก แสดงถึง ความมีอนาคตที่ยิ่งใหญ่และก้าวไกล บางตำรากล่าวไว้ว่า นอกจากจะคลอดเป็นทารกผมขาวโพลนออกจากท้องแม่แล้ว ยังแสดงปาฏิหาร

เล่าจื้อถือเป็นปราชญ์ที่เกิดมาพร้อมกับสติปัญญาอันล้ำค่า เด็กทารกที่มีผมขาวและปาฏิหาริย์ในการชี้ฟ้าชี้ดิน เขาใช้เวลา 62 ปีในการเรียนรู้และค้นคว้าความรู้ ก่อนที่จะเผยแพร่ลัทธิเต๋าที่มีคุณธรรมสูง เมื่อโต